วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

จังหวัดที่ทิ้งขยะมากที่สุดในประเทศไทย

จังหวัดที่ทิ้งขยะมากที่สุดในประเทศไทย

ตะลึง! คนเชียงใหม่ แชมป์ผลิตขยะมากที่สุดในประเทศ สสส.เร่งรณรงค์เริ่มโครงการ 1 ก.พ. (มติชนออนไลน์)

          นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 มกราคม ถึงสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ในขณะนี้ว่า 
หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่แล้วพบว่าขณะนี้มีปัญหาหลักที่ต้องดำเนินการแก้ไขหลายประการแต่ที่สำคัญเร่งด่วนก็คือปัญหาขยะและปัญหาน้ำเน่าเสียสำหรับปัญหาขยะพบว่าคนเชียงใหม่ผลิตขยะจำนวนคนละ 2.12 กิโลกรัมต่อวัน มากกว่าคนกรุงเทพฯ และทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศไทย ทำให้เทศบาลนครเชียงใหม่ต้องใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาทเพื่อกำกัดขยะ ในขณะที่คนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่จำนวน 5 แสนคนผลิตน้ำเสียวันละ 100  ล้านลิตร 1 ปีผลิตน้ำเสียปีละ 36,500 ล้านลิตร ทำให้ต้องเสียเงินค่าบำบัดน้ำเสียเป็นจำนวนมาก

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
มติชนออนไลน์
ขยะมูลฝอย เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นเทศบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากประชากรในแต่ละพื้นที่มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เมื่อพื้นที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ปัญหาขยะตามชุมชนต่างๆ ก็เพิ่มตามไปด้วย ในอนาคตเชื่อว่า ปัญหาขยะมูลฝอยหากไม่มีการแก้ไขกันอย่างจริงจัง หรือถูกต้องตามวิธีการในระยะยาว จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติอย่างแน่นอน

ระบบบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบชีวภาพ


ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการจัดการกับขยะพลาสติก   ซึ่งต้องใช้เวลาในการย่อยสลายอย่างน้อย ประมาณ  450 ปี     หลายหน่วยงานในหลายประเทศทั่วโลกต่างพยายามหาวิธีกำจัดขยะพลาสติก หากไม่ได้รับการจำกัดที่ถูกวิธีจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในหลายๆ ด้าน เช่น ปัญหากลิ่นเน่าเหม็น , การปนเปื้อนสู่น้ำใต้ดิน , เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และพาหนะนำโรคต่างๆ  และที่สำคัญปัญหาจากก๊าซมีเทนในกองขยะเป็นสาเหตุหลัก ของการเกิดสภาวะเรือนกระจก  (Greenhouse Effect)  ต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน   ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลกที่จะต้องรีบดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
เนื่องจากขยะพลาสติกมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของประชากร     และการขยายตัวของชุมชน   อีกทั้งในปัจจุบันยังไม่มีการจัดการขยะพลาสติกอย่างเป็นระบบ      ทำให้ทั่วโลกมีปริมาณขยะพลาสติกตกค้างในระบบนิเวศหลายล้านตัน       ซึ่งขยะเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชากรในแต่ละชุมชน  หากยังไม่สามารถหาวิธีการกำจัดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้  ในที่สุดมนุษย์ก็จะต้องเผชิญกับปัญหาขยะพลาสติกล้นโลกในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับประเทศไทยการกำจัดขยะชุมชนโดยทั่วไปมีหลายวิธี แต่วิธีที่ยอมรับกันแพร่หลาย คือ การฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล (sanitary landfill)  การผลิตเป็นปุ๋ยหมัก (composting) และการเผาในเตา (incineration)  ซึ่งแต่ละวิธีต่างก็มีข้อจำกัด เช่น ต้องใช้พื้นที่มากในการฝังกลบ  และอาจส่งผลกระทบต่อน้ำใต้ดิน  ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว  การผลิตปุ๋ยหมักสามารถลดขยะได้จำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทุกๆ วัน  ส่วนการเผาทำลายส่วนใหญ่ต้องนำเทคโนโลยีเตาเผาขยะจากต่างประเทศและใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง
หากพิจารณาถึงการจัดการขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือในเขตเทศบาล ทั่วประเทศ ยังคงใช้วิธีการกําจัดที่ไม่ถูกต้องเช่น กองบนพื้น เผากลางแจ้ง หรือ ระบบฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล          ส่วนใหญ่ยังคงประสบปัญหาการปฏิบัติงานขาดบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ   ตลอดจนขาดงบประมาณในการดูแลและปฏิบัติงาน ทําให้ระบบฝังกลบขยะมูลฝอยที่ได้รับการออกแบบ ขาดประสิทธิภาพในการกําจัดขยะมูลฝอย