วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ระบบบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบชีวภาพ


ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการจัดการกับขยะพลาสติก   ซึ่งต้องใช้เวลาในการย่อยสลายอย่างน้อย ประมาณ  450 ปี     หลายหน่วยงานในหลายประเทศทั่วโลกต่างพยายามหาวิธีกำจัดขยะพลาสติก หากไม่ได้รับการจำกัดที่ถูกวิธีจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในหลายๆ ด้าน เช่น ปัญหากลิ่นเน่าเหม็น , การปนเปื้อนสู่น้ำใต้ดิน , เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และพาหนะนำโรคต่างๆ  และที่สำคัญปัญหาจากก๊าซมีเทนในกองขยะเป็นสาเหตุหลัก ของการเกิดสภาวะเรือนกระจก  (Greenhouse Effect)  ต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน   ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลกที่จะต้องรีบดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
เนื่องจากขยะพลาสติกมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของประชากร     และการขยายตัวของชุมชน   อีกทั้งในปัจจุบันยังไม่มีการจัดการขยะพลาสติกอย่างเป็นระบบ      ทำให้ทั่วโลกมีปริมาณขยะพลาสติกตกค้างในระบบนิเวศหลายล้านตัน       ซึ่งขยะเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชากรในแต่ละชุมชน  หากยังไม่สามารถหาวิธีการกำจัดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้  ในที่สุดมนุษย์ก็จะต้องเผชิญกับปัญหาขยะพลาสติกล้นโลกในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับประเทศไทยการกำจัดขยะชุมชนโดยทั่วไปมีหลายวิธี แต่วิธีที่ยอมรับกันแพร่หลาย คือ การฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล (sanitary landfill)  การผลิตเป็นปุ๋ยหมัก (composting) และการเผาในเตา (incineration)  ซึ่งแต่ละวิธีต่างก็มีข้อจำกัด เช่น ต้องใช้พื้นที่มากในการฝังกลบ  และอาจส่งผลกระทบต่อน้ำใต้ดิน  ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว  การผลิตปุ๋ยหมักสามารถลดขยะได้จำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทุกๆ วัน  ส่วนการเผาทำลายส่วนใหญ่ต้องนำเทคโนโลยีเตาเผาขยะจากต่างประเทศและใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง
หากพิจารณาถึงการจัดการขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือในเขตเทศบาล ทั่วประเทศ ยังคงใช้วิธีการกําจัดที่ไม่ถูกต้องเช่น กองบนพื้น เผากลางแจ้ง หรือ ระบบฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล          ส่วนใหญ่ยังคงประสบปัญหาการปฏิบัติงานขาดบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ   ตลอดจนขาดงบประมาณในการดูแลและปฏิบัติงาน ทําให้ระบบฝังกลบขยะมูลฝอยที่ได้รับการออกแบบ ขาดประสิทธิภาพในการกําจัดขยะมูลฝอย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น